ประกันภัยชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ปี 2022
ประกันภัยรถยนต์ชั้นที่ 1 นั้นเรียกได้ว่าเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดหากเปรียบเทียบกับประกันภัยรถยนต์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ จนคนทั่วไปมักเรียกกันติดปากว่า “ประกันภัยรถชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี” ซึ่งก็ถือได้ว่าไม่ผิดไปจากความเป็นจริงสักเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้นที่ 1 นั้น ไม่ได้ให้ความคุ้มครองในทุกกรณี ยังมีอีกหลายกรณีที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครอง
ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองของ ประกันภัยรถชั้น 1 ซึ่งเงื่อนไขที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองนี้จะมีระบุอยู่ในกรมธรรม์ แต่อาจจะไม่โดดเด่นนักเพราะว่าโอกาสในการเกิดกรณีเหล่านี้นั้นน้อยมาก ๆ โดยวันนี้เราจะขอยกเอากรณีที่เกิดขึ้นยากมาก ๆ ที่ว่ามานี้มาแนะนำกัน ซึ่งเราก็ควรที่จะรู้ไว้เพื่อที่จะได้ระมัดระวังตัวไว้ก่อน แต่บางเรื่องก็ต้องปล่อยไปจริง ๆ เพราะเป็นเหตุที่เกินกว่าเราจะคาดการณ์ได้
สิ่งที่คนใช้รถควรรู้เกี่ยวกับกรณีที่ประกันภัยรถชั้น 1 ไม่คุ้มครอง
ประกันชั้น 1 (ไม่) ❌คุ้มครองอะไรบ้าง ?
ประกันชั้น 1 แม้จะคุ้มครองได้ครอบคลุมที่สุดในบรรดาประกันรถยนต์ทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีกรณีงดเว้น สำหรับใครที่สนใจทำประกันชั้น 1 ถ้าทำแบบนี้ประกันชั้น 1 ก็อาจจะช่วยดูแลไม่ได้
❌ไม่คุ้มครองเมาแล้วขับ (ปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) 20 มิลลิกรัม
- ❌ไม่คุ้มครองรถถูกขับโดยผู้ไม่เคยมีใบขับขี่
❌ไม่คุ้มครองการใช้รถยนต์ในทางผิดกฏหมาย เช่น ก่อจราจล ปล้น ขนยาเสพติด
❌ไม่คุ้มครองหากดัดแปลงชิ้นส่วนเสี่ยงอันตรายเช่น ติดก๊าซ NGV /LPG หลังทำสัญญาประกัน
❌ไม่คุ้มครองหากใช้รถนอกเหนือจากการที่จดกรมธรรม์ไว้
เช่น จดไว้ว่าเป็นรถยนต์สำหรับส่วนบุคคลแต่นำไปใช้งานเชิงพาณิชย์
❌ไม่คุ้มครองสายซิ่ง นำรถไปใช้แข่งขันความเร็ว
❌ไม่คุ้มครองขับออกนอกพื้นที่คุ้มครอง เช่น การขับเที่ยวต่างประเทศ
❌ไม่คุ้มครองหากใช้รถลากจูงคันอื่น จนเกิดความเสียหาย
❌ไม่คุ้มครองผู้ขับขี่ขับชนคนแล้วหลบหนี
สรุปประกันชั้น 1 ตอบโจทย์คนใช้รถแบบคุณจริงไหม ?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งขับรถยนต์คันแรกด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมในทุกความเสี่ยง รวมถึงรถใหม่ป้ายแดงควรทำประกันชั้น 1 เพราะไม่เพียงแต่จะได้รับความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีแล้ว ยังคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงเหตุอื่น ๆ ที่ครอบคลุมครบถ้วนอีกด้วย โดยคุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ตามกรมธรรม์แต่ละกรมธรรม์ที่ได้ระบุไว้ซึ่งอ่านต่อได้ในบทความ วิธีการอ่าน และเช็คกรมธรรม์ฉบับละเอียดยิบ !
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่าแม้จะเป็นประกันรถยนต์ประเภท 1 เหมือนกัน แต่ความคุ้มครองจะแตกต่างกันออกไปตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทฯ กำหนด จึงควรศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดกรมธรรม์อีกครั้งก่อนเลือกซื้อ สามารถอ่านทริคเผยหมดเปลือก ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังไงให้ราคาถูกที่สุดได้เลย หรือให้ 724 ครบเครื่องเรื่องประกันออนไลน์ได้เปรียบเทียบประกันชั้น 1 ที่เหมาะสมไว้เพื่อคุณสามารถซื้อออนไลน์ง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง คลิกที่นี่
รถได้รับความเสียหายจากภาวะสงคราม
หากว่ารถรับได้รับความเสียหายจากภาวะสงคราม ไม่ว่าจะเป็นรอยกระสุน รอยระเบิดต่าง ๆ เหล่านี้ถือว่าอยู่นอกเหนือจากความคุ้มครองของบริษัทประกันภัย ไม่ว่ารถของเรานั้นจะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมากน้อยขนาดไหนก็ตาม ถ้ารถเราได้รับความเสียหายจากภาวะสงคราม เราจะไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทน
รถได้รับความเสียหายจากสงครามกลางเมือง
นอกจากความเสียหายจากภาวะสงครามแล้ว ความเสียหายจากสงครามกลางเมือง หรือการก่อความไม่สงบอันเกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงความเสียหายอันเกิดจากโดนลูกหลงจากการปะทะ หรือจากกลุ่มก่อความไม่สงบ บริษัทประกันภัยก็จะไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้เช่นกัน
รถได้รับความเสียหายจากวัตถุปรมาณู
กรณีเหตุที่เกิดจากข้อนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก แต่บริษัทประกันภัยก็มีการชี้แจงไว้ก่อนว่าไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ และหากเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ๆ เราก็คงอาจจะไม่ได้อยู่รอดมาเคลมประกันก็ได้ เพราะว่าวัตถุปรมาณูนั้นมีความอันตรายค่อนข้างสูงนั่นเอง
นอกจากนี้คำว่าวัตถุปรมาณูไม่ได้หมายถึงขีปนาวุธ หรือระเบิดปรมาณูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเสียหายที่เกิดจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกด้วย
ความเสียหายจากกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู
สืบเนื่องจากข้อที่แล้วที่กล่าวถึงวัตถุปรมาณู ระเบิดนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธนั้นจะทิ้งรังสีที่เป็นอันตรายหลังจากเกิดเหตุระเบิด และรัศมีการกระจายตัวของรังสีนั้นก็กินวงกว้างมากกว่าระยะการทำลายของระเบิดเสียอีก บริษัทประกันภัยจึงระบุเอาไว้ชัดเจนว่าไม่มีความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนนี้
รถได้รับความเสียหายนอกอาณาเขตความคุ้มครอง
หากว่าสถานที่ที่เราเกิดอุบัติเหตุนั้นอยู่นอกเหนือจากเขตที่ให้ความคุ้มครอง บริษัทประกันภัยอาจจะปฏิเสธที่จะไม่ให้ความคุ้มครอง ซึ่งโดยปกติแล้วอาณาเขตคุ้มครองจะอยู่ในพื้นที่ภายในประเทศไทยนั่นเอง หากเราต้องการที่จะใช้รถออกนอกประเทศก็ควรที่จะแจ้งกับบริษัทประกัน เพื่อทำการออกกรมธรรม์สำหรับคุ้มครองในขณะที่เราใช้รถยนต์เดินทางนอกประเทศนี้ โดยที่เราอาจจะต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย
รถได้รับความเสียหายจากการนำไปทำผิดกฎหมาย
บริษัทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองกับรถคันที่ได้รับความเสียหายจากการนำไปใช้เพื่อก่อเหตุผิดกฎหมาย เช่น ขนยาเสพติด เป็นต้น
รถได้รับความเสียหายจากการใช้รถยนต์ผิดประเภท
บริษัทประกันมีสิทธิที่จะไม่ให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับเรา (ผู้เอาประกัน) ที่ใช้รถยนต์ผิดประเภท เช่น รถยนต์เราจดทะเบียนส่วนบุคคลไว้ แต่เราได้นำรถไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งก็จะถือว่าอยู่นอกเหนือที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์
รถได้รับความเสียหายที่เกิดจากการลากจูง
หากว่ารถยนต์เราเกิดเสียขึ้นและมีเหตุให้ต้องมีการลากจูงรถเรา เพื่อไปที่อู่ซ่อมหรือที่ใดก็ตาม แล้วเกิดความเสียหายขึ้นระหว่างที่ทำการลากจูงรถไป ส่วนนี้บริษัทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง ยกเว้นว่าจะมีการเพิ่มความคุ้มครองส่วนนี้ไว้ก่อนแล้ว
จะเห็นได้ว่ากรณีที่เรากล่าวถึง ล้วนแต่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากมากในบ้านเรา ยกเว้นแต่ 2 ข้อสุดท้ายที่ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดีเราก็อาจจะโดนบริษัทประกันไม่ให้ความคุ้มครองได้
สนใจร่วมทำธุรกิจ
ข้อมูลเพิ่มเติม